หน้าแรก >> พระครูอุตฺตโมรุวงศ์ธาดา >> ประวัติของพระครูฯ

ประวัติของพระครูอุตฺตโมรุวงศ์ธาดา

       พระครูอุตฺตโมรุวงศ์ธาดามีนามเดิมว่า "ศุข" เป็นบุตรของคุณพ่อรอดกับคุณแม่โดด เกิดที่ตำบลบ้านกระแชง อำเภอเชียงราก (อำเภอเมืองปทุมธานี ในปัจจุบัน)  จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2413  ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 5

       เมื่อเยาว์ได้ศึกษาภาษาไทย มอญ และขอม กับพระอาจารย์ปั้น สงกิจโจ  เจ้าอาวาสวัดสำแล  จนมีความรู้ความสามารถอ่านออกเขียนได้ทั้ง 3 ภาษา

       ครั้นเมื่อเจริญวัยเป็นหนุ่มมีเพื่อนฝูงมากมาย ส่วนมากเป็นนักเลงสุราและนักเลงหัวไม้ แต่ตัวท่านไม่ดื่มสุราเพียงแต่คอยช่วยเหลือเพื่อนฝูงเป็นอย่างดี  ถ้าเห็นเพื่อนฝูงคนไหนเมาสุรา จะต้องส่งเพื่อนถึงบ้านก่อน แล้วจึงกลับบ้าน  เมื่อกลับถึงบ้านจะต้องกราบบิดา มารดาทุกครั้ง แล้วจึงเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว อาบน้ำ และรับประทานอาหาร  บิดามารดาก็พร่ำสอนมิให้เที่ยวเตร่คบเพื่อนฝูงที่ไม่ดี แต่พอเพื่อนชวน ก็จะหนีไปเที่ยวกับเพื่อน โดยที่ไม่ได้บอกบิดามารดาทราบ

       บิดามารดาเกรงว่าท่านจะเสียคน จึงได้อ้อนวอน ขอให้บวชพระสัก 1 พรรษา ท่านไม่สามารถขัดบิดามารดาได้ จึงได้รับคำไปว่า "จะบวชให้" แต่อีกใจหนึ่งก็ยังคิดถึงเพื่อนฝูง  แต่ก็ต้องจำใจบวชให้ จึงได้กำหนดวันบวช คือวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2433 และได้อุปสมบทที่วัดสำแล

       เมื่อถึงกำหนดวันอุปสมบท ท่านได้จัดเสื้อผ้าใส่หีบปิดกุญแจแล้วนำกุญแจแอบมาหลบซ่อนอยู่ในโบสถ์วัดสำแล เพื่อรอพระอุปัชฌาย์มาอุปสมบท ส่วนทางบิดามารดาของท่านเมื่อถึงเวลาจะแห่นาคเข้าวัดกลับไม่เห็นตัวท่าน จึงร้องไห้มาหาพระอุปัชฌาย์ พระอุปัชฌาย์ท่านจึงบอกไปว่าลูกชายอยู่ในวัดแล้ว และรออยู่ในพระอุโบสถ บิดามารดาท่านจึงสบายใจ

         

       การอุปสมบทในครั้งนี้มีพระอาจารย์ปั้น สงกิจโจ  เจ้าอาวาสวัดสำแล  ในขณะนั้นเป็นพระอุปัชฌาย์  พระอาจารย์มาก ปญญาทีโป  วัดสำแลและพระอาจารย์หลุย นารโท วัดศาลาแดง  เป็นพระคู่สวด

       เมื่อได้อุปสมบทแล้ว  พระอุปัชฌาย์ได้เรียกมาอบรมทุกวัน จนได้รสพระธรรม  พออุปสมบทได้ครบ 7 วัน ท่านจึงได้ให้ลูกศิษย์นำกุญแจหีบใส่เสื้อผ้ามาคืนให้บิดามารดา  และยังกำชับอีกว่าเสื้อผ้าในหีบจะให้ใครก็ได้  ตัวท่านจะไม่สึกและจะบวชในบวรพระพุทธศาสนาต่อไปจนตลอดชีวิต  ทำให้บิดามารดามีความปลื้มปิติอย่างล้นพ้น

       ในระหว่างที่อุปสมบทจำพรรษาอยู่ที่วัดสำแลนี้ ก็ได้ศึกษาพระธรรมวินัยจากพระอุปชฌาชย์  จากสำนักเจ้าคุณพระธรรมราชานุวัตร วัดเสนาคนาราม  จากสำนักเจ้าคุณพระครูศิริปัญญามุนี วัดสุริวงษ์  หลังจากนั้นได้เดินทางไปเมืองมอญจำพรรษาที่วัดทะปลัง เมืองมะละแหม่ง ซึ่งมีพระนันโทเป็นเจ้าอาวาส  แล้วจึงเดินทางกลับมาจำพรรษาที่วัดสำแล ซึ่งในขณะนั้น ท่านเจ้าคุณอริยธัชชสังฆปาโมกข์ เป็นเจ้าอาวาส

       ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2454  จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูอุตฺตโมรุวงศ์ธาดา ตำแหน่งเจ้าคณะแขวง อำเภอสามโคก  ตลอดมาจนมรณภาพ  เมื่อ พ.ศ.2482 และได้รับพระราชทานเพลิงเป็นเกียรติยศ เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2483